การออกแบบเว็บไซท์ vs การออกแบบสื่ออื่น ๆ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้สนทนากับรุ่นน้องนักออกแบบกราฟฟิก ที่เพิ่งจะมาจับงานออกแบบเว็บ และกับที่ออฟฟิศผมเอง ที่ให้พวกดีไซเนอร์(ออกแบบภายใน) มาลองทำเว็บกันดู ผมพบความเหมือนและแตกต่างระหว่างการออกแบบเว็บ กับ การออกแบบสื่อ หรือการออกแบบอื่น ๆ ในหลาย ๆ มิติ
สิ่งที่เหมือน
จุดประสงค์ในการออกแบบ : ดูง่าย อ่านง่าย เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย และมีความสวยงาม
และนี่คือความแตกต่าง
การออกแบบทั่วไป เราติดตามผลหลังจากออกแบบเสร็จไปแล้วละถูกนำไปใช้จริงได้น้อยมาก หรือแทบไม่ได้เลย จะมีก็จากการสังเกตที่ไม่ค่อยเป็นรูปธรรมนัก และหรือถ้าต้องการข้อมูลตรงนี้อาจจะต้องเสียเวลา หรือค่าใช้จ่ายจ้างบุคคลากรมาเก็บข้อมูลอย่างเป็นการเป็นงาน
การออกแบบที่จบแล้วจบเลยแบบนี้ มันเลยทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างช้า ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป หรือหยุดอยู่กับที่ เพราะไม่มีข้อมูลของเดิมให้ต่อยอด ทำให้นับหนึ่งใหม่เรื่อย ๆ ทุก ๆ ครั้งที่ทำโปรเจคออกแบบ
ผิดกันกับเว็บ ที่เมื่อเราออกแบบเสร็จ เว็บใช้งานจริงแล้วเราสามารถที่จะเห็น feedback หรือพฤติกรรมของ user ในเว็บของเราได้เลย
ข้อมูลตรงนี้หลากหลาย และมีค่ามหาศาล เอื้ออำนวยต่อการออกแบบในแง่ที่ว่า เราสามารถรับรู้และติดตามงานออกแบบของเราเพื่อปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นได้ตลอดเวลา และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน
การพัฒนาเลยมีรากฐานมาจากข้อมูลที่มีอยู่ในมือ ณ ปัจจุบัน
เรียกว่าการออกแบบเว็บส่วนใหญ่ถ้าผู้ออกแบบอาศัยข้อมูลตรงส่วนนี้มาประมวล และวิเคราะห์เพื่อพัฒนาไปสู่การออกแบบที่ดีขึ้น (แก้ปัญหาของเดิม) น่าจะเป็นสิ่งที่เราควรจะประยุกต์ใช้งานกับการออกแบบแขนงอื่นทั่วไปได้อีก
คือ ประมวลผลจากข้อมูล --> แล้วค่อยดำเนินงานออกแบบ(เพื่อต่อยอด)
แต่การออกแบบรูปแบบเดิม ๆ มักจะมาแบบนี้
ได้โจทย์ (จากเจ้าของโปรเจค ที่เอาข้อมูลบางส่วนมาให้ ซึ่งจะใช้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้) --> แล้วค่อยออกแบบ
ผมมองว่า การออกแบบที่เคยมีเคยเป็นมาในอดีต ปัญหาเกิดตั้งแต่งานยังไม่เริ่ม เพราะว่าไม่มีข้อมูลให้นำมาพัฒนาต่อหรืออย่างมากก็จะได้รับโจทย์บางส่วนมาให้ตีความ ที่ผมต้องการเน้นคือ ที่มาของโจทย์ก่อนการเริ่มออกแบบแต่ละงานว่ามีที่มาที่ไป และเพียงพอต่อการนำไปพัฒนางานออกแบบหรือไม่
ไม่ต้องพูดถึงงานที่ออกแบบตามความรู้สึก หรือตามใจนักออกแบบโดยไม่อ้างอิงอะไรเลย
มันเลยเป็นวนเวียนที่เริ่มนับหนึ่งใหม่ พอออกแบบเสร็จก็จบกัน ไม่มีการตามดูงานที่ทำไปแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่างานออกแบบที่ทำไปสามารถนำไปใช้ได้จริงมากน้อยแค่ไหน? หรือควรจะปรับปรุงอะไรบ้างในงานออกแบบครั้งต่อไปเพื่อแก้ปัญหาเดิมจากการออกแบบครั้งก่อน
ในเมื่อไม่มีปัญหาเดิมมาให้แก้ เพราะข้อมูลไม่มี .. เราเลยไม่ค่อยจะเห็นการต่อยอดในการออกแบบทั่วไปมากนัก หรือร้ายที่สุดคือ มันหยุดอยู่กับที่แบบวนเป็น loop ที่จบในตัวเองไม่ไปไหน